ได้สังเกตุกันหรือไม่ ว่าทุกวันนี้ในสังคมของเราล้วนมีแต่ความวุ่นวาย ผู้คนมีความสุขน้อยลง รวมถึง
ตัวของเราเองด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งช่วงหลังๆ มานี้ รู้สึกว่าตัวเองโกรธง่ายหายนาน ฉุนเฉียวง่าย ขี้
หงุดหงิด ขี้โมโห ขี้งอน สารพัดขี้เลยล่ะ T^T จนมีผลกับการใช้ชีวิตประจำวัน แม่ก็เลยแนะนำให้สวดมนต์
ทำสมาธิบ่อยๆ เราจึงต้องหาหนังสือสวดมนต์มาสักเล่ม
จนกระทั่ง... ได้มาเจอกับหนังสือที่มีชื่อว่า "มหัศจรรย์แห่งการให้อภัย" โดย พระราชญาณกวี ซึ่งจะ
ประกอบด้วยเนื้อหาเกี่ยวกับการให้อภัยและบทสวดมนต์
ขอสารภาพว่าช่วงแรกที่ได้หนังสือมาไม่ได้อ่านเนื้อหาเลย มีไว้เพื่อประกอบการสวดมนต์อย่างเดียว
ฮ่าๆ แต่พอได้อ่านเนื้อหาแล้ว จึงรู้ว่าเป็นหนังสือที่มีดีมากกว่าเป็นหนังสือประกอบการสวดมนต์เพียง
อย่างเดียว โดยมีเรื่องราวเกี่ยวกับการให้อภัยทาน
และการ
อโหสิกรรมไม่ว่าจะกับคนหรือสัตว์
เพื่อไม่ให้เป็นเวร
เป็นกรรมติดต่อไปยังภพชาติหน้า การที่เราไม่ยกโทษหรือไม่ยอม
ให้อภัยก็เหมือนกับการเอาสิ่งที่ไม่ชอบ
ผูกติดกับตัวไว้ตลอด เวลาที่เราโกรธหรือเกลียดใครสีหน้าเราก็จะ
เปลี่ยน ทำให้เลือดในร่างกายผิดระบบ
เช่น เมื่อโกรธจัด จิตที่ถูกครอบงำด้วยอารมณ์ร้ายก็จะมีลักษณะ
เช่นเดียวกัน คือ
มีความร้อนรุ่ม ไม่พอใจ ทำอะไรก็กังวล เป็นทุกข์
แต่ถ้าเรายกโทษก็จะรู้สึกว่าจิตใจเบาสบาย เพราะว่าหมด
ความเป็นทุกข์
นอกจากนี้ยังแสดงให้เห็นถึงการจองเวรข้ามภพ
ที่มาในรูปแบบลูก สามี ภรรยา
หรือการพบหน้ากันครั้งแรกแต่ก็รู้สึกว่าไม่ถูกชะตาด้วย
เหตุเป็นเพราะว่าชาติที่แล้วเราไม่ได้มีการให้อภัยกัน
ซึ่งถือว่าเป็นสิ่งที่น่ากลัว
เพราะเราไม่สามารถรู้
ว่าชาติที่แล้วเราเคยไปทำอะไรกับใครไว้บ้าง
ดังนั้นจึงควรอโหสิกรรมและขออโหสิกรรมแก่กันเพื่อให้
จบกันภายในชาตินี้
หนังสือเล่มนี้ก็ทำให้เรามีความคิดเกี่ยวกับคนที่ทำให้เรารู้สึกโกรธหรือไม่พอใจต่างไปจากเดิม
นะ จะคิดเสียว่าชาติที่แล้วเราอาจจะเคยล่วงเกินทำให้เขาเจ็บช้ำน้ำใจมาก่อน
จึงยุติกรรมด้วยการให้อภัย
กันในชาตินี้
ซึ่งถ้าได้ลองจะรู้ว่าไม่ใช่เรื่องง่าย
จึงต้องคิดว่าเป็นการให้ทานอย่างสูงที่จำเป็นต้องใช้
ความพยายามที่มีผลคุ้มค่า
แต่เมื่อทำได้ก็จะส่งผลให้เรารู้สึกสบายใจ
มองบุคคลนั้นเป็นมิตรแทนที่จะ
เป็นศัตรูกัน และสร้างกรรมร่วมกันไม่จบไม่สิ้น
คงจะเห็นแล้วใช่มั้ยว่า ..พลังยิ่งใหญ่ที่ทำให้ใจเราเป็นสุขนั้นคือ พลังแห่งการให้อภัย..